อย่างที่เราทราบกันดีว่าในสังคมปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษกลายป็นภาษาสากลของโลกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ผู้ปกครองส่วนใหญ่ได้เตรียมความพร้อมของลูกน้อยให้มีทักษะภาษาอังกฤษเพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งได้จัดภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลเช่นกัน เราจะเห็นว่าหลายปีที่ผ่านมากระแสโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนสองภาษากลายเป็นที่พูดถึงในกลุ่มแม่ๆอย่างเราอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

star-wars-963131_1280อย่างไรก็ตามในสังคมปัจจุบันการสื่อสารภาษาอังกฤษได้ไม่ถือเป็นความสามารถพิเศษอีกต่อไปคุณแม่คิดว่าปัจจุบันนี้เป็นยุคของ “ภาษาที่สาม” การศึกษาภาษาที่สามนอกจากภาษาของประเทศตนเองและภาษาอังกฤษแล้วทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้เปรียบในหลายๆด้านดังจะเห็นกระแส “โรงเรียนสามภาษา” ที่กลายเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในการเสริซหาข้อมูลผ่านโลกไซเบอร์อยู่ทุกวัน ตัวคุณแม่เองได้ให้ความสำคัญกับ “ภาษาจีนกลาง” หรือ“ภาษาจีนแมนดาริน” มากเป็นพิเศษเนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในโลก การรู้ภาษาจีนจึงเสมือนการเปิดโลกกว้างให้เด็กรุ่นใหม่ และเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ2 ของโลกและคาดว่าจะขึ้นมาเป็นอันดับ1ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วยค่ะ อย่างไรก็ตามการให้ความสำคัญกับภาษาจีนเป็นภาษาที่สามนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะคุณแม่แต่ละท่านอาจจะให้ความสำคัญกับภาษาที่สามต่างๆกันไป อาจจะเป็นภาษาญี่ปุ่นสเปนโปรตุเกสหรือเยอรมันทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและเหตุผลของแต่ละบ้านค่ะ

การเตรียมความพร้อมภาษาที่สามให้กับน้องเจมมี่และน้องแอฟฟี่สำหรับที่บ้านเหมือนกับการทำ home school แบบง่ายๆนี่เองค่ะโดยหลักสูตรและวัตถุประสงค์เบื้องต้นคือ เด็กๆสามารถฟังสื่อสารและมีความเข้าใจประโยคพื้นฐานในชีวิตประจำวันรวมทั้งสามารถอ่านประโยคพื้นฐานสั้นๆได้ และจะเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆตามความพร้อมของน้องค่ะโดยไม่ลืมที่จะเน้นความสนุกสนานของเด็กๆเพื่อที่จะได้เรียนอย่างมีความสุขค่ะ

ตัวคุณพ่อและคุณแม่เองไม่มีความรู้ภาษาจีนแต่อย่างใดอาศัยความพยายามในการหาข้อมุลและสื่อการสอนต่างๆเพื่อมาสอนลูกที่บ้าน วิดีโอนี้น้องแอฟฟี่ได้เริ่มเรียนรู้ภาษาจีนจากตัวเลข1-10 คุณแม่จะใช้หลักการให้น้องเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติมไปทุกวันวันละคำเพื่อเป็นการสะสมฐานข้อมูลทองคำไว้ในคลังสมองของน้องค่ะ แนวทางนี้ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาเด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่เรียนภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า10 ปีที่โรงเรียนแต่ไม่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เนื่องจากขาดการสะสมคำศัพท์นั่นเองค่ะ

คุณแม่บันทึกวิดีโอนี้และนำมาเผยแพร่เพื่อหวังว่าจะมีประโยชน์บ้างในการสร้างแรงจูงใจให้น้องๆ หรือแม้กระทั่งคุณแม่ๆเองที่จะช่วยกันเตรียมความพร้อมให้ลูกของเราสำหรับยุคภาษาที่สามค่ะเช่นเดิมค่ะน้อมรับทุกคำแนะนำติชมเพื่อนำมาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับครอบครัวที่เล็งเห็นความสำคัญของอนาคตของชาติตัวน้อยๆค่ะ

一                          yī   ( อี )                      หนึ่ง

二                         èr  ( เอ้อ )                   สอง

三                         sān  ( ซาน )                สาม

四                         sì  ( ซื่อ )                     สี่

五                         wǔ  ( อู่ )                      ห้า

六                         liù  ( ลิ่ว )                     หก

七                         qī  ( ชี )                       เจ็ด

八                         bā  ( ปา )                    แปด

九                         jiǔ  ( จิ่ว )                    เก้า

十                         shí  ( ฉือ )                   สิบ

Top